อากาศบนท้องถนน กับ PM 2.5

การใช้ชีวิตในเมืองของคนส่วนใหญ่ มักจะหมดเวลาไปกับการเดินทาง ลองคิดดูสิว่าวันๆนึงเราใช้เวลาอยู่บนรถกันกี่ชั่วโมง? อีกทั้งยังต้องเผชิญกับสารพัดมลพิษของเครื่องยนต์ต่างๆ ไหนจะฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากๆชนิดที่ว่าไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ อย่างเช่น PM 2.5 ที่ลอยอยู่ในอากาศเป็นปริมาณมหาศาล แล้วในแต่ละวินาทีที่เราสูดดมอากาศเข้าไป มลพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกายของเราไปเท่าไร? จะส่งผลต่อภูมิคุ้มกันในร่างกาย และปัญหาด้านสุขภาพขนาดไหน?

            ปัญหา PM 2.5 และอากาศที่ไม่บริสุทิ์อยู่คู่กับคนไทยมานานหลายปี หลายคนก็มีวิธีการป้องกันที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน สวมหน้ากากอนามัย หรือบางคนเลือกใช้รถโดยสารประจำทางเพื่อลดมลพิษ แต่เราสามารถเลือกที่จะดูแลพื้นที่ของเราในขณะที่เดินทางได้ ซึ่งนั่นก็คือการทำให้ห้องโดยสารรถยนต์ของเรานั้นปลอดภัยจากมลพิษต่างๆ

รู้หรือไม่ว่ามลพิษ และฝุ่น PM2.5 ก็สามารถเข้าไปในห้องโดยสารรถยนต์ได้!?

          ในขณะที่เราเดินทางด้วยรถยนต์ไม่ว่าจะขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ หรือจอดอยู่กับที่ก็ตาม ฝุ่นละออง และมลพิษต่างๆก็จะหมุนเวียนเข้ามา และสะสมอยู่ในห้องโดยสาร มลพิษเหล่านั้นจะหมุนเวียนอยู่ในพื้นที่แคบๆ ยิ่งในขณะที่การจารจรติดขัด มลพิษก็จะยิ่งเข้ามาในห้องโดยสารมากขึ้นเรื่อยๆ และจะสะสมอยู่ตามจุดต่างๆภายในห้องโดยสาร เช่น เพดานรถ ตามเบาะ ตามซอกเล็กๆ พรม หรือแม้แต่หมอน ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรีย โดยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากไม่รู้จักวิธีการป้องกันอย่างถูกต้อง

มลพิษในห้องโดยสาร ส่งผลต่อปัญหาทางด้านร่างกายอย่างไร?

            มลพิษในห้องโดยสาร ฝุ่น ควัน อาจเป็นส่วนหนึ่ง หรือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยจำนวนมากต้องเผชิญกับโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้ เพราะฝุ่นละออง และมลพิษต่างๆจะทำให้ภูมิคุ้มกันของเราแย่ลง นอกจากนี้ในบางรายยังประสบปัญหาโรคปอดอุดตันเรื้อรัง โรคมะเร็งปอดอีกด้วย เพราะลองคิดดูสิว่า ฝุ่นละอองที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมากๆอย่าง PM 2.5 ที่แม้แต่ระบบป้องกันธรรมชาติของร่างกายก็ยังไม่สามารถกรองไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ จนทำให้ฝุ่นละอองเหล่านี้ไปแพร่กระจายอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกาย หรือแม้กระทั่งปอด

แล้วจะป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร?

          จริงๆแล้วปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันได้ไม่ยาก โดยเริ่มต้นจากพฤติกรรมของตัวเราเอง เริ่มจากการหมั่นดูแล ทำความสะอาดห้องโดยสารรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เป็นการป้องกันเบื้องต้นในการลดปัญหากลิ่นอับชื้น หรือฝุ่นที่สะสมอยู่ตามจุดต่างๆของรถ และที่สำคัญคือ ใช้ตัวช่วยในการกรองอากาศจากภายนอกรถที่จะเข้ามาในห้องโดยสาร นั่นก็คือ “ไส้กรองแอร์” ที่ได้คุณภาพ สามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากๆที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ สามารถดักจับมลพิษ แบคทีเรีย หรือเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะฉะนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่าปล่อยให่ช่วงเวลาที่จะต้องใช้อยู่บนรถของคุณกลายเป็นพื้นที่อันตรายจากฝุ่นควัน และมลพิษต่างๆเลย เพราะสุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ แต่สามารถสร้างได้ เพียงแค่รู้จักป้องกันให้ถูกวิธี ใช้ไส้กรองแอร์ที่ได้คุณภาพ สามารถปกป้องคุณจากฝุ่น ควัน หรือสิ่งที่ปนเปื้อนมาในอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพ และเพื่อสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ในห้องโดยสาร ให้อุ่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง