You are currently viewing ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง ให้ชัวร์ ไม่ต้องไปเสี่ยงดวงทางไกล

ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง ให้ชัวร์ ไม่ต้องไปเสี่ยงดวงทางไกล

สำหรับเพื่อนๆที่มีแผนว่าจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด หรือไปเที่ยว สิ่งแรกที่ควรจะทำก่อนออกเดินทางก็คือ การเตรียมความพร้อมของรถ โดยเฉพาะหลังจากที่เก็บตัวไม่ได้ใช้งานมานานในสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ ก็ยิ่งควรตรวจเช็คสภาพรถก่อน เพราะถ้าเรายิ่งออกเดินทางในระยะทางที่ไกลแล้ว และไม่ได้ตรวจเช็คสภาพ อาจเกิดเหตุสุดวิสัย บอกได้คำเดียวว่างานเข้า ถ้าพูดตามตรงรถยนต์ก็เหมือนคนนั่นแหละ ที่ต้องมีการตรวจสุขภาพ กินยาดีๆ ดื่มน้ำสะอาดๆ รถยนต์ก็ต้องการการตรวจเช็คสภาพ ใช้อะไหล่คุณภาพ และน้ำมันเครื่องดีๆเหมือนกัน ในบทความนี้ผมจึงมี 5 วิธีการเตรียมความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทาง ออกทริป มาฝากกันครับผม

1 น้ำมันเบรก อยู่ด้านหน้าตำแหน่งประมาณเดียวกัน เปิดฝามา สังเกตสีถ้ายังใสๆ อยู่ถือว่าโอเค เวลาเติมดูสเกลที่ข้างๆ จะมีคำว่า max กับ low ต้องเติมอย่าให้ขาดหรือเกิน น้ำมันเบรกทำงานร่วมกับอะไหล่ชุดเบรกที่เชื่อมกันกับล้อทั้งสี่ล้อ หากไม่ตรวจเช็คให้ดีอาจทำให้อะไหล่ชุดเบรกที่เสื่อม เบรกไม่ดี รถแย่เลยนะครับ

2.น้ำฉีดกระจก ต้องอย่าให้ต่ำกว่าเกณฑ์ ถ้ามันไม่พอ มันจะฉีดไม่ออก ข้อแนะนำให้เติมเป็นน้ำดื่มทั่วๆไปดีกว่า เพราะจะป้องกันการเกิดตะกอนในหัวฉีด สังเกตุได้จาก พอใช้รถไปนานๆ มันจะฉีดไม่ค่อยออกเพราะหัวฉีดตัน 

3. น้ำมันเครื่องยนต์ ต้องเปิดออกมาดูเช่นกันครับ เปิดออกมาดูเกียร์น้ำมันเครื่อง จะเป็นห่วงให้เราดึงออกมา เมื่อดึงออกมาแล้วจะเจอจดสองจุดเป็นจุดบอกระดับ ถ้าดึงออกมาแล้วพบว่าระดับต่ำจุดล่างกว่า จะทำให้เครื่องมีปัญหาเรื่อง เครื่องร้อนง่าย เกิดการเสียดสีมากขณะเครื่องทำงาน จะทำให้เครื่องยนต์ และอะไหล่สึกหรอไวมาก แม้ว่าเราจะเลือกใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพก็ตาม  แนะนำให้เปลี่ยนและเติมให้อยู่ในระดับที่พอดีนะครับ ส่วนตัวผมจะเติมให้ปริ่มๆขีดบนครับ โดยปกติรถใช้งานจะอยู่ที่ 5000กิโลเมตร เปลี่นทีครับ แต่ถ้ารถไม่ค่อยวิ่ง 10000กิโลเมตร ได้ครับ

4. แบตเตอร์รี่ ตรวจขั้วลบและบวก เช็คระดับน้ำกลั่น หมุนออกมาดูเลยครับ ต้องเช็คไม่ให้ระดับมันต่ำกว่าขั้วแบต หากแบตมีปัญหา หม้อแบตไม่เก็บไฟฟ้าเมื่อเราวิ่งรถไปแล้วรถเกิดดับ จะทำให้สตาร์ทรถไม่ติด ทีนี้งามไส้เลยครับ เวลาเติมสังเกตุที่หัวจุดที่หมุนเกลียวออกมา เติมให้ระดับประมาณพอดี แล้วไล่เช็คหมุนขึ้นมาทุกอัน เพื่อเป็นการรักษาให้แบตเตอร์รี่มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยครับ และหากพบว่าหัวมีขี้เกลือเกาะ ให้ใช้น้ำร้อนราดเพื่อล้างขี้เกลือออกครับ เกลือที่ติดจะละลายไปกับรน้ำร้อนออกไปเองครับ

5. หม้อน้ำ ห้ามเปิดตอนเครื่องร้อนนะครับ มันจะมีแรงดัด ดันจุกออกมา ถ้าเป็นรถเก่าแนะนำที่หมื่นโล และถ้ารถใหม่ ก็ประมาณ 2หมืนโลครับ สังเกตุหม้อพักน้ำครับ ต้องให้อยู่ระดับ Full จะทำหน้าที่ไหลวน ระบายความร้อนให้ห้องเครื่องไม่ให้ความร้อนขึ้น

ความคิดเห็นส่วนตัวหากเป็นรถมือสอง หรือรถที่ใช้งานมานานผมแนะนำให้เปลี่ยนของเหลวในระบบทั้งหมดเลยครับ โดยเฉพาะ น้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ น้ำมันเบรก น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ เพราะถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ส่วนต่างๆของรถยนต์ทำงานได้ออย่างไหลลื่น พวกอะไหล่หรือชิ้นส่วนต่างๆก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าจะให้ดีก็ตรวจเช็คไปด้วย เช่น ล้อ ยาง ใบปัดน้ำฝน หรือไส้กรองต่างๆ ว่าเสื่อมสภาพมั้ย หรือมีอะไรผิดปกติรึเปล่า ถ้าเจอก็แนะนำให้ซ่อมครับ หรือเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อยนะ และใช้อะไหล่รถยนต์คุณภาพ เพื่อการใช้งานแบบยาวๆ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุสุดวิสัยที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระหว่างเดินทาง และหลังจากเตรียมความพร้อมเสร็จแล้ว ทีนี้ก็พร้อมที่จะออกเดินทาง แล้วก็อย่าลืมปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จะช่วยเดินทางได้โดยสวัสดิภาพครับ